ขิงแก่ผสมรากโสมตังกุยออร์แกนิคอบแห้งบำรุงภายในสตรี
ตังกุย หรือโสมตังกุย เป็นพืชสมุนไพรที่ได้รับนิยมเป็นอย่างสูงในประเทศ จีน ญี่ปุน และเกาหลี โดยส่วนใหญ่ในตังกุยในการรักษา อาการปวดท้องประจำเดือน อาการของผู้สูงอายุวัยทอง และอาการอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับผู้หมดประจำเดือน นอกจากนั้นยังใช้ในการรักษา หรือบรรเทาอาการต่างๆ ตังกุยสกัด มีสารสำคัญหลายชนิด เช่น ไลกัสติไล (Ligustilide) กรดเฟรูลิก (Ferulic Acid) และโพลีแซ็กคาไรด์ (Polysaccharides) ถูกนำมาใช้ในตำราแพทย์แผนไทยโบราณในการปรับประจำเดือนให้เป็นปกติ รักษาภาวะขาดประจำเดือน ใช้เป็นยาแก้ปวดประจำเดือน หรือรักษาอาการร้อนวูบวาบในหญิงหมดประจำเดือน
หากพูดถึงตังกุย… ตังกุยเป็นยาร้อนเล็กน้อยมีสารสำคัญต่างๆ ไลกัสติไล กรดเฟรูลิก และโพลีแซ็กคาไรด์ รวมถึงวิตามินบีเอ วิตามินบี 12 และวิตามินอี สมุนไพรตังกุยจึงมีสรรพคุณช่วยรักษาโรคได้มากมาย โดยเฉพาะในด้านการรักษาโรคภายในของสตรีอย่างอาการวัยทองได้อย่างครอบคลุม ช่วยลดอาการของคนวัยทอง เช่น ร้อนวูบวาบ ปวดเมื่อย อารมณ์หงุดหงิด คันยุบยิบ เป็นต้น
ออกฤทธิ์ต่อหัวใจ ตับ และม้าม ใช้เป็นยาบำรุงโลหิต ฟอกเลือด รักษาโรคโลหิตจาง ปริมาณเลือดมีน้อย สีเลือดจางอ่อน เนื่องจากตังกุยนั้นอุดมไปด้วยวิตามินบี 12 ซึ่งจำเป็นต่อการสร้างเลือด จึงช่วยรักษาภาวะเลือดพร่อง สีหน้าซีดขาวหรือซีดเหลือง เล็บและริมฝีปากซีด สีลิ้นซีด ช่วยเพิ่มความเปล่งปลั่งมีน้ำมีนวลและทำให้ผิวพรรณดี นอกจากนี้ยังช่วยกระจายโลหิต กระตุ้นการไหลเวียนของเลือดในร่างกายให้ดีขึ้น ทำให้เลือดไหลเวียนสะดวก และช่วยสลายเลือดคั่ง
ประโยชน์ของขิงแก่
ขิงเป็นสมุนไพรเพื่อสุขภาพ ที่บ้านเราใช้ทั้งทำอาหาร ใช้เป็นส่วนประกอบของยาสมุนไพร หรือนำมาทำเป็นเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ ดื่มแก้กระหายก็ได้ และหากใครกำลังมองหาเครื่องดื่มที่จะช่วยเพิ่มความเฮลธ์ตี้ได้อย่างเต็มที่ แนะนำเป็นน้ำขิงแก้วนี้นี่ล่ะค่ะ เพราะขิงมีสรรพคุณแจ่ม ๆ
1. ช่วยย่อยอาหาร แก้อาการท้องอืด
สารประกอบฟีโนลิกในขิงมีส่วนช่วยบรรเทาอาการระคายเคืองในลำไส้ พร้อมทั้งยังมีฤทธิ์กระตุ้นการทำงานของระบบย่อยอาหาร นอกจากนี้ขิงยังมีฤทธิ์กระตุ้นการบีบตัวของกระเพาะอาหารและลำไส้อย่างอ่อน ส่งผลให้อาการท้องอืด แน่นท้อง และอาการท้องเฟ้อบรรเทาลงได้
2. บรรเทาอาการคลื่นไส้
ฤทธิ์ร้อนของขิงเป็นยาแก้อาการคลื่นไส้ได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะอาการคลื่นไส้ที่เกิดจากความผิดปกติของกระเพาะอาหารและลำไส้ ที่ได้รับสารเคมีหรืออาหารแสลงบางอย่างมา นอกจากนี้ผลการศึกษาที่ตีพิมพ์ในวารสาร Support Care Cancer เมื่อปี 2012 ยังบอกด้วยว่า การดื่มน้ำขิงเป็นประจำทุกวันจะสามารถลดอาการคลื่นไส้ในผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาด้วยเคมีบำบัดได้ด้วยนะคะ
3. ช่วยลดน้ำหนัก
ผลการศึกษาของนักวิจัยชาวญี่ปุ่นที่ถูกตีพิมพ์ในวารสาร Pharmaceutical Society of Japan ในปี 2008 พบว่า ขิงมีส่วนช่วยเพิ่มการทำงานของระบบเผาผลาญในร่างกาย ทำให้ร่างกายสามารถเผาผลาญไขมันได้มากกว่าปกติ จึงมีส่วนช่วยลดน้ำหนักได้ นอกจากนี้น้ำขิงอุ่น ๆ ยังสามารถช่วยในเรื่องระบบขับถ่าย ลดอาการท้องผูก รวมทั้งลดระดับฮอร์โมนคอร์ติซอล ซึ่งเป็นสาเหตุของความเครียด อันเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ร่างกายบริโภคไขมันมากขึ้นจนทำให้น้ำหนักขึ้นได้อีกด้วย
4. ฆ่าเชื้อโรคและแบคทีเรีย
จากการทดลองน้ำที่ได้จากการแช่ขิงพบว่า น้ำขิงสามารถยับยั้งการเติบโตของเชื้อแบคทีเรียและพยาธิชนิดต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี อีกทั้งสารจิงเกอร์รอลในขิงยังมีอานุภาพมากพอจะลดโอกาสติดเชื้อต่าง ๆ ของร่างกายได้โดยเฉพาะหากเราดื่มน้ำขิงเป็นประจำทุกวัน สารจิงเกอร์รอลจะต่อสู้กับเชื้อไวรัสโรคหวัดและอาการไข้ได้อย่างเต็มที่ เราก็จะมีสุขภาพที่ดีห่างไกลจากโรคหวัดได้ง่าย ๆ
5. บำรุงรักษาสุขภาพช่องปาก
สารจิงเกอร์รอลของขิงยังมีประโยชน์ต่อสุขภาพช่องปากด้วยนะคะ โดยมีส่วนช่วยกำจัดเชื้อโรคอันเป็นสาเหตุของโรคเหงือกอักเสบและคราบพลัคในช่องปากเราได้อย่างมีประสิทธิภาพเชียวล่ะ
6. ช่วยลดอาการอักเสบ
ขิงอุดมไปด้วยสารต้านการอักเสบ และสารต้านอนุมูลอิสระก็ค่อนข้างสูงนอกจากนี้ในขิงยังมีสารจิงเกอร์รอล (Gingerol) ซึ่งมีฤทธิ์รุนแรงกว่าแอสไพริน และยังมีฤทธิ์ต้านการอักเสบภายในร่างกาย ดังนั้นหากดื่มน้ำขิงเป็นประจำ ก็จะช่วยป้องกันการอักเสบในร่างกายได้อีกทางหนึ่ง
7. เป็นยาลดปวด
อย่างที่บอกว่าสารจิงเกอร์รอลมีฤทธิ์แรงกว่ายาแอสไพรินซะอีก ซึ่งก็สอดคล้องกับการศึกษาจาก University of Georgia ที่พบว่า การดื่มน้ำขิงเป็นประจำทุกวันมีส่วนช่วยลดอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อเนื่องจากการออกกำลังกายได้ราว ๆ 25% เลย
8. แก้ปวดประจำเดือน
คุณสมบัติข้อนี้ของขิงเป็นสิ่งที่สาว ๆ ทุกคนคู่ควรอย่างแรง โดยผลการศึกษาจาก University of Georgia พบว่า นอกจากขิงจะช่วยลดอาการปวดเมื่อยเนื้อตัวได้แล้ว น้ำขิงยังมีฤทธิ์บรรเทาอาการปวดประจำเดือนของสาว ๆ ได้ราว ๆ 47% เลยทีเดียว นอกจากนี้ยังช่วยลดอาการคลื่นไส้อาเจียน และอาการท้องเสียที่สาว ๆ บางคนอาจจะเป็นระหว่างวันแดงเดือดได้ด้วย
9. ลดความเสี่ยงโรคมะเร็ง
การศึกษาใน British Journal of Nutrition ระบุว่า น้ำขิงมีคุณสมบัติยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งได้ เนื่องจากมีสารต้านอนุมูลอิสระสูง อีกทั้งในน้ำขิงยังมีฤทธิ์ต้านการอักเสบของเซลล์ต่าง ๆ ในร่างกาย และยังมีสารเคมีธรรมชาติที่ไปช่วยกระตุ้นเอนไซม์กลูตาไธโน-เอส-ทรานสเฟอรเรส สารต้านอนุมูลอิสระชนิดหนึ่งที่จะชวยลดโอกาสเกิดเซลล์มะเร็งร้ายได้
ที่มา : คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
สินค้าเป็นผงธรรมชาติล้วนๆ มีกลิ่นหอมขึ้นจมูก ไม่ผสมแป้ง ไม่ผสมน้ำตาล อาจมีกากใยจากขิงและตังกุย สามารถทานได้ หอมอร่อย