ต้นมะเดื่อฉิ่ง🌱ต้นพร้อมส่ง ☘(รับประกันสินค้าชำรุด)
มะเดื่อฉิ่ง เป็นไม้ยืนต้นสูงพอสมควร แต่ถ้าปลูกในกระถางไว้เป็นผักประจำบ้าน ก็ได้เช่นกัน ต้นก็จะไม่ใหญ่ จะมีรสฝาดนิดๆ“มะเดื่อฉิ่ง” ฟิกส์รสฝาด ส่วนผสมที่ขาดไม่ได้ในอาหารใต้รสเด็ด
มะเดื่อฉิ่ง หรือ FICUSFISTULOSA REINW อยู่ในวงศ์ MORACEAE พบมากตามป่าโปร่ง ป่าดิบชื้นทั้งในภาคเหนือ และภาคใต้ยาวไปจนถึงประเทศมาเลเซีย จึงมีชื่อเรียกเป็นภาษาท้องถิ่นแตกต่างกันไป อาทิ วฉิ่ง ชิ่งขาว (นครศรีธรรมราช) เดื่อนอด (ภาคเหนือ)
ต้นมะเดื่อฉิ่งเป็นไม้ยืนต้นสูงประมาณ 3-5 เมตร เปลือกของลำต้นมีสีน้ำตาลอมเขียว ผิวเรียบ ส่วนใบเป็นใบเดี่ยวขนาดใหญ่สีเขียวเข้ม กว้างประมาณ 5-6 นิ้ว ยาวประมาณ 8 นิ้ว มีหน้าใบและขอบใบเรียบเป็นมัน ผลมะเดื่อฉิ่งมีลักษณะเป็นรูปทรงกลมสีเขียว ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 1-1.2 เซนติเมตร ออกผลตามต้นและกิ่งก้านในลักษณะเป็นช่อ ๆ ละประมาณ 5-30 ผล เมล็ดภายในผลมีสีชมพูอ่อนคล้ายเกสรตัวผู้เบียดกันอยู่ภายใน
วิธีการขยายพันธุ์มะเดื่อฉิ่งสามารถทำได้ทั้งการเพาะเมล็ด ปักชำ ตอนกิ่ง และเสียบยอด แต่การตอนกิ่งจะได้ผลดีที่สุด แต่การตอนกิ่งมะเดื่อฉิ่งซึ่งเป็นไม้เนื้ออ่อน จะไม่ควั่นเปลือกรอบทั้งกิ่งเพราะเสี่ยงที่จะทำให้กิ่งหักเสียหายได้ง่าย แต่ใช้มีดคม ๆ ปาดลิ่มเข้าไปในเนื้อไม้ประมาณ 1 ใน 3 ของกิ่ง ยาวประมาณ 1 นิ้ว จากนั้นใช้ผ้าพลาสติกหรือเชือกฟางสอดลิ่มไปที่แผลที่ปาดกับเนื้อไม้เพื่อไม่ให้รอยแผลติดกัน จากนั้นนำตุ้มขุยมะพร้าวมาหุ้มให้มิดรอยแผล ใช้เชือกฟางมัดให้แน่น ประมาณ 20-30 วัน กิ่งที่ตอนไว้จะออกรากพร้อมให้นำไปปลูกลงดินได้
ผลอ่อนมะเดื่อฉิ่งมีรสชาติฝาดมัน ทางใต้นิยมนำมาทำอาหาร เช่น แกงกะทิ แกงพุงปลา (ไตปลา) ช่วยลดความจัดจ้านของอาหาร และรับประทานเป็นผักสดจิ้มน้ำพริกก็ได้ประโยชน์เพราะเป็นผักที่มีเส้นใยอาหารช่วยให้ระบบขับถ่ายของร่างกายดีขึ้น นอกจากนี้ เปลือก ลำต้น และรากของมะเดื่อฉิ่งยังมีสรรพคุณทางยา นำไปต้มน้ำดื่มเป็นยาแก้ท้องเสีย แก้ประดงหรือผดผื่นคันตามร่างกายได้ดี