หัวเชื้อ ไตรโคเดอร์มา+บาซิลลัส ซับทิลิส+อาหารเลี้ยงเชื้อ1ซอง ขยายเชื้อเป็นหัวเชื้อสดชนิดน้ำ3พลังบวกได้20ลิตร
หัวเชื้อ ไตรโคเดอร์มา+บาซิลลัส ซับทิลิส+อาหารเลี้ยงเชื้อ1ซอง เข้มข้นรวม3พลังบวก ขยายเชื้อเป็นหัวเชื้อสดชนิดน้ำ3พลังบวกได้20ลิตร
วิธีการขยายเชื้อมาไว้ใช้เองเพื่อลดต้นทุนในการผลิต เพื่อสุขภาพของเกษตรกร คนในครอบครัวรวมถึงผู้บริโภคและเพื่อคุณภาพของสารชีวภัณฑ์ที่ดีที่สุดนั้นคือเชื้อสดนั้นเอง
เชื้อราไตรโคเดอร์มา นอกจากจะยับยั้งแล้วยังใช้ป้องกันโรคพืชที่เกิดจากเชื้อราเช่น
เชื้อราพิเทียม (โรคเน่าระดับดิน กล้ายุบ กล้าเน่า)
เชื้อราฟิวซาเรียม (โรคเหี่ยว)
เชื้อราสเคลอโรเทียม (โรคโคนเน่า เหี่ยว)
เชื้อราไรซอคโทเนีย (โรคเน่าระดับดิน กล้ายุบ กล้าเน่า)
เชื้อราคอลเรโตตริคัม (โรคใบจุด ใบไหม้ ผลเน่า แอนแทรคโนส )
เชื้อราโฟมอพซิส (โรคใบจุด ลำต้นไหม้ )
เชื้อราอัลเทอร์นาเรีย (โรคใบจุด ใบไหม้)
เชื้อจุลินทรีย์บาซิลลัส ซับทีลิส (Bacillus Subtilis) ( BS)
คุณสมบัติเศษของ บาซิลลัส ซับทิลิส
ใช้ในการเตรียมแปลงปลูกแปลงเพาะชำ ลดปริมาณเชื้อโรค (แบคทีเรียพิเทียม ฟิวซาเรียม สเคอโรเทียม ไฟทอปทอร่า)ในดินก่อนปลูก หลังจากใส่ปุ๋ยอินทรีย์ ปุ๋ยหมัก ผักทุกชนิด ควบคุมโรคเน่าจากแบคทีเรีย โรคเหี่ยว โรคโคนเน่า โรคใบไหม้ เน่าคอโคน กล้าเน่ายุบ/ พืชตระกูลส้ม มะนาว ส้มโอ มะปราง ทุเรียน ขนุน องุ่น /ยางพารา ควบคุมโรคโคนเน่า ไฟทอปธอร่า /อ้อย ข้าว ข้าวโพด ควบคุมโรคโคนเน่า โรคไส้แดง ใบขีด ใบจุด ใบไหม้ /เผือก ควบคุมโรคตากบตาเสือ หม่อน ยาสูบ ควบคุมโรครากเน่าโคนเน่า โรคเหี่ยวเขียว โรคเหี่ยวเหลือง
วิธีการขยายเชื้อ
1. เติมน้ำสะอาด20ลิตรลงในถังขยายเชื้อ
2. ใส่หัวเชื้อ 3พลังบวก 1ซอง
3. ใส่อาหารเลี้ยงเชื้อ 1ซอง
4. ใส่น้ำตายทรายแดง 500กรัม
5. กวนให้เข้ากัน ปิดฝาถังเลี้ยงเชื้อ
6. เป่าฟองอากาศด้วยปั๊มลมตู้ปลา2หัวจ่าย
7. ผ่านไป7-10วัน พร้อมใช้งาน
เก็บหัวเชื้อสด3พลังบวก ไว้ในถังเหมือนเดิม3-5วันเป่าฟองอากาศ1ครั้ง มีอายุเก็บมากกว่า1ปีเติมน้ำตาลทรายแดง500กรัมทุกๆ1เดือน
อัตราการใช้หัวเชื้อสดชนิดน้ำ2-3ลิตร/น้ำ100ลิตร ขึ้นอยู่กับการระบาดของโรคพืช ผสมสารจับใบสำหรับชีวภัณฑ์ทุกครั้งที่ใช้งาน
ด้วยวิธีดังกล่าว เกษตรกรจะได้เชื้อราไตรโคเดอร์มา แบบเส้นใย ชนิดน้ำที่สามารถกำจัดทำลายโรคพืชได้ภายใน24ชั่วโมงและยับยั้งทำลายโรคพืชผักหลังจากฉีดพ่นเชื้อไปแล้วภายใน2-4ชั่วโมง
วิธีการใช้เชื้อชนิดสดกับพืชปลูกทั่วไป
1.1 การฉีดพ่นน้ำเชื้อสดลงในกระบะเพาะกล้า กระถาง หรือถุงปลูกพืช สามารถ ใช้ได้ตามระยะการเจริญเติบโตของพืช ดังนี้ 1) ฉีดพ่นน้ำเชื้อสดลงบนกระบะเพาะหลังจาดหยอดเมล็ดแล้วหรือในระหว่างที่ ต้นกล้ากำลังเจริญเติบโตโดยฉีดให้ดินเปียกชุ่ม 2) ฉีดพ่นน้ำเชื้อสดลงในถุงหรือกระถางปลูกพืช ตั้งแต่เริ่มปลูกหรือในระหว่างที่ พืชกำลังเจริญเติบโตโดยฉีดให้ดินเปียกชุ่ม
1.2 การฉีดพ่นน้ำเชื้อสดลงในหลุมปลูกพืช
1) ฉีดพ่นน้ำเชื้อสดลงในหลุมปลูกพืชหลังจากเพาะเมล็ดแล้ว โดยฉีดพ่นให้ดิน เปียกชื้น
2) ฉีดพ่นน้ำเชื้อสดลงในหลุมปลูกพืชหลังย้ายพืชลงปลูกแล้ว โดยฉีดให้ดินเปียก ชื้น
1.3 การฉีดพ่นน้ำเชื้อสดลงบนแปลงปลูกพืช
1) ฉีดพ่นน้ำเชื้อสดลงบนแปลงพืชหลังจากหว่านเมล็ด และคลุมแปลงด้วยฟาง แล้วในอัตรา 10-20 ลิตร/100 ตารางเมตร และให้น้ำแก่พืชทันที
2) ฉีดพ่นน้ำเชื้อสดลงบนแปลงปลูก อัตรา 10-20 ลิตร/100ตารางเมตร ก่อน คลุมแปลงด้วยพลาสติกดำ
3) กรณีที่พืชกำลังเจริญเติบโตอยู่ให้ฉีดพ่นน้ำเชื้อสดลงบนแปลง ในอัตรา 10-20 ลิตร/100 ตารางเมตร
3.4 การฉีดพ่นน้ำเชื้อสดโคนต้นพืชและใต้ทรงพุ่ม
1) ฉีดพ่นน้ำเชื้อสดลงตรงโคนต้นพืช และบนดินบริเวณรอบโคนต้นพืช โดยให้ผิว ดินเปียกชื้น
2) ฉีดพ่นน้ำเชื้อสดลงบนดิน ใต้บริเวณใต้ทรงพุ่มและขอบชายพุ่ม ให้ดินพอเปียก ชื้น
คำเตือน : ควรฉีดพ่นในเวลาแดดอ่อน หรือเวลาเย็นกรณีที่บริเวณที่ฉีดพ่นไม่มีร่มเงาจาก พืชเลย ถ้าดินบริเวณที่จะฉีดพ่นเชื้อแห้งมาก ควรให้น้ำพอให้ดินมีความชื้นเสียก่อน หรือให้น้ำ ทันทีหลังฉีดพ่น เพื่อให้น้ำพอเชื้อซึมลงดิน
ในกรณีที่โรคพืชระบาดรุนแรง ให้ใช้บาซิลลัส โปร กำจัดโรคพืชก่อน จึงใช้เชื้อ3พลังบวกเพื่อป้องกันควบคุมโรคพืชต่อไป