เมล็ดควินัวดำ (Black Quinoa Seeds) ขนาด 250 กรัม (250g)
ควินัว (Quinoa) ธัญพืชมากประโยชน์ที่รู้จักกันในนามว่า ซูเปอร์ฟู้ด เป็นที่นิยมมากในต่างประเทศ และนำมาทำเมนูสุขภาพได้มากมาย ทั้งของคาวและขนมหวาน เติมคุณค่าให้อาหารธรรมดาอร่อยและมีประโยชน์มากขึ้น
ควินัวขึ้นชื่อว่าเป็นซูเปอร์ฟู้ด เพราะให้สารอาหารมากกว่าธัญพืชชนิดอื่น ๆ มีโปรตีน แคลเซียม ฟอสฟอรัส แมกนีเซียม ธาตุเหล็ก และไขมันดีที่จำเป็นต่อร่างกาย มีไฟเบอร์มากกว่าข้าวกล้องถึง 2 เท่า เป็นแหล่งรวมกรดอะมิโน กรดเอซิด และสารต่อต้านอนุมูลอิสระ สามารถช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดไม่ให้สูงจนเกินไป และควบคุมระบบการย่อยอาหาร และยิ่งไปกว่านั้น ควินัว ยังเป็นอาหารที่เหมาะกับคนที่ต้องการลดน้ำหนักอีกด้วย
สีของควินัวที่แตกต่างกันเกิดจากการเคลือบของซาโปนินในเปลือกนอก หากมีสีเข้มจะมีสารต้านอนุมูลอิสระสูงกว่าและรสชาติมากกว่าด้วย เปรียบเสมือนข้าวขาวและข้าวกล้อง
ควินัวสีดำ มีสารแอนโทไซยานินที่มีคุณสมบัติต้านการอักเสบและต้านอนุมูลอิสระ ที่ช่วยป้องกันโรคเรื้อรัง โรคหัวใจ โรคมะเร็ง และโรคเบาหวาน
คุณประโยชน์ของควินัวที่แสนอัศจรรย์ มีอะไรบ้าง มาดูกัน
1.) ควินัว เป็นธัญพืชที่เปี่ยมไปด้วย โปรตีน ไฟเบอร์ และแร่ธาตุที่จำเป็นต่อร่างกาย เป็นแหล่งโปรตีนที่เป็น Gluten-Free
2.) ควินัว มีสาร Flavoniods ทีเรียกว่า Quercetin และ Kaempferol ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ
3.) ควินัว มีไฟเบอร์สูงมาก สูงมากกว่าธัญพืชทั่วไปถึง 2 เท่า
4.) ควินัวเป็นแหล่งโปรตีนที่ปราศจาก Gluten ซึ่งควินัวเป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยม ดีกว่า ขนมปัง หรือ เส้น พาสต้าที่เป็นติดป้ายว่าเป็น Gluten-Free
5.) ควินัวเป็นแหล่งโปรตีนจากธรรมชาติที่ดี ประกอบไปด้วยกรดอะมิโนต่างๆที่จำเป็นต่อร่างกาย
6.) ควินัวเป็นอาหารที่มีระดับ Glycemic Index ต่ำ Glycemic Index เป็นการวัดอัตราการเร็วของอาหารในการเปลี่ยนสภาพเป็นน้ำตาลในเลือด
7.) ควินัวมีเป็นแหล่งธาตุอาหารชั้นดี มีแร่ธาตุที่จำเป็นเหล่านี้อยู่อย่างเพียงพอต่อร่างกาย
8.) ควินัวมีประโยชน์ในการช่วยกระตุ้นกระบวนการเมตาบอลิซึม ควินัวจึงช่วยในการเพิ่มอัตราการเผาผลาญพลังงานของร่างกาย และยังช่วยในการลดระดับน้ำตาลและไตรกลีเซอไรในเลือดอีกด้วย
9.) ควินัวเปี่ยมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งจะช่วยในการชลอวัยและลดอัตราการเกิดโรค NACD ต่างๆ
10.) ควินัวเป็นอาหารที่เหมาะกับผู้ที่ต้องการลดน้ำหนัก ในการลดน้ำหนัก
11.) ควินัวเป็นวัตถุดิบที่นำมารับประทานได้ง่าย อร่อย แค่แช่ในน้ำแล้วนำไปต้ม 10-15 นาทีก็พร้อมรับประทาน หรือจะใส่ในหม้อหุงข้าวก็ได้