เมล่อน📌รวมเมล่อนทุกสายพันธุ์🎯ถูกที่สุด 10 บ.🎯เมล็ดพันธุ์เมล่อน3-10👉งอกง่าย ☘️โตไว👉ลูกโต☘️รสหวาน
*** 💚 เมล็ดพันธุ์ชุดเมล่อน ซองละ 10บาท มี5-20 เมล็ด/ซอง 💚**** [คุ้มค่าแน่นอน !!!]
📌 เมล็ดพันธุ์อย่างดี เก็บใหม่ อายุนาน 1ปี + เก็บในตู้เย็นได้ 2 ปี
📌เมล็ดพันธุ์คัดพิเศษ คัดมือ งอกดี
📌 มีอัตราการงอกเมล็ดสูง 98% 🌱
📌ปลูกลงแปลง ปลูกลงกระถางได้
🧡ชนิดเมล็ดพันธุ์เมล่อนคุณภาพดี🧡
1. เมล่อนมาชิตะ 3 เมล็ด เมล่อนเนื้อส้มรสหวานหอม ทานสดอร่อยมาก
2. เมล่อนปริ้นเซส 5 เมล็ด เมล่อนเนื้อเขียวหวานนุ่ม นิยมทำบิงซู ของหวานต่างๆ
3. เมล่อนฮามิโกะ หรือ แตงธิเบต 5 เมล็ด เมล่อนลูกโต เนื้อกรอบมาก หวานสุดๆ ไม่มีกลิ่นเหม็นเขียวเลย ทานอร่อย
4. เมล่อนกาเลีย หรือเมล่อนสรทอง 5 เมล็ด เมล่อนเนื้อแน่น ฉ่ำน้ำ หวานที่สุด หวานกว่าเมล่อนทุกชนิด ทานสดอร่อยมาก
5. เมล่อนกาเลีย 5 เมล็ด
6. เมล่อนไข่ทองคำ 3เมล็ด
7. เมล่อนฝรั่งเศส 5 เมล็ด
8. เมเล่อนแอปเปิล 10 เมล็ด
9. แคนตาลูปซันโกลด์ 3 เมล็ด แคนตาลูปเนื้อส้มเปลือกส้ม หอมหวานเนื้อแน่น
10. แคนตาลูป ฮันนี่ดิว 20 เมล็ด แคนตาลูปเนื้อส้มเปลือกขาว กรอบ หอม หวานนุ่ม
11. แตงไทยกลีบทอง 5 เมล็ด
12. แตงไทย ลูกยาว 10 เมล็ด
13 แตงไทยลูกกลม 10 เมล็ด
14.แตงไทยขาวละมัย 10 เมล็ด
15 แตงไทยสีทอง 10 เมล็ด
16 เมล่อนกาเลีย 5 เมล็ด
17 เมล่อนไข่ทองคำ 3 เมล็ด
18 เมล่อนฝรั่งเศส 5 เมล็ด
19 เมเล่อนแอปเปิล 10 เมล็ด
☘️วิธีเพาะเมล่อน
1.การเพาะเมล็ด เพาะในกะบะเพาะหรือถุงเพาะเมล็ดก่อน ถ้าอยากให้เมล็ดงอกได้ดีและเร็วขึ้น ให้แช่ในน้ำหรือน้ำอุ่น 3=ซม. หุ้มด้วยผ้าเปียกหมาดๆ ต่ออีก 1 คืน แล้วจึงค่อยนำไปเพาะต่อในวัสดุเพาะคือ พีทมอส
2การเตรียมแปลงปลูกและย้ายกล้า เตรียมถาดเพาะกล้าหรือถุงพลาสติกเพาะกล้า ทำการหยอดเมล็ดลงในกระบะหรือถุงเพาะหลุมละ 1 ต้น ให้ลึกประมาณ 2 ซม. กลบเมล็ดด้วยวัสดุเพาะชนิดเดียวกัน รดน้ำให้ชุ่ม ก่อนนำไปวางไว้ในที่ร่ม รำไร ไม่ให้โดนแสงแดด
3. การให้น้ำและปุ๋ยแก่เมล่อน
การให้น้ำ ปัจจุบันนิยมใช้ระบบการให้น้ำแบบหยดซึ่งเป็นการให้น้ำแก่ต้นแตงที่ในบริเวณรากของต้นแตงแต่ละต้นโดยตรง ซึ่งเป็นวิธีที่ประหยัดน้ำกว่า และยังสามารถผสมปุ๋ยและสารเคมีป้องกันกำจัดศัตรูพืชบางชนิดลงไปในระบบน้ำหยดได้ด้วย แต่ต้องใช้การลงทุนสูงในครั้งแรกแต่สามารถเก็บไว้ใช้ในฤดูกาลปลูกต่อๆไป
การให้ปุ๋ย การใส่ปุ๋ยให้แก่เมล่อนที่ถูกวิธีและประหยัดนั้น ก่อนการให้ปุ๋ยแก่ต้นเมล่อนควรมีการตรวจวิเคราะห์ดิน เพื่อหาความอุดมสมบูรณ์ของดินเสียก่อนว่ามีอินทรีย์วัตถุ ธาตุฟอสฟอรัส ธาตุโปแตสเซียม ธาตุแคลเซียม และแมกนีเซียม ที่เป็นประโยชน์ต่อพืชอยู่ในปริมาณเท่าใดก่อน จึงค่อยกำหนดปริมาณปุ๋ยที่จะใส่ให้แก่ดินที่ปลูกนั้นอีกครั้ง เนื่องจากความอุมสมบูรณ์ของดินในแต่ละพื้นที่มีความแตกต่างกัน คำแนะนำในการให้ปุ๋ยแก่ต้นเมล่อนต่อไปนี้ จึงเป็นคำแนะนำทั่วไปสำหรับแปลงปลูกพืชที่ไม่มีผลการตรวจวิเคราะห์ดิน
4. การดูแลรักษาระหว่างการพัฒนาของผล การดูแลที่ถูกต้องจึงจะให้ผลผลิตที่ดี ทั้งวิธีการขึ้นค้าง การแต่งกิ่งแขนง การผสมเกสรและการไว้ผล ล้วนต้องรู้วิธีการดูแลให้เหมาะสม ในต้นเมล่อนหนึ่งต้นจะปล่อยให้ติดลูกเพียงหนึ่งผลเพื่อต้องการผลผลิตที่มีคุณภาพที่ดีที่สุด หรืออย่างมากไม่เกิน 2 ผล ดังนั้น หากมีการดูแลรักษาที่ไม่ถูกวิธี อาจทำให้ไม่ได้เก็บเกี่ยวผลผลิตจากต้นเมล่อนนั้นเลย ทำให้ผลผลิตต่อไร่ลดลง
5. อายุเก็บเกี่ยวของเมล่อนที่เหมาะสมนั้นขึ้นกับพันธุ์ ซึ่งมีทั้งพันธุ์เบา ที่มีอายุการเก็บเกี่ยว 60 - 65 วัน หลังหยอดเมล็ด หรือ 30 - 35 วัน หลังดอกบาน พันธุ์ปานกลางมีอายุเก็บเกี่ยว 70 - 75 วัน หลังหยอดเมล็ด หรือ 40 - 45 วัน หลังดอกบาน พันธุ์หนักที่มีอายุเก็บเกี่ยวเกินกว่า 80 - 85 วันหลังเพาะเมล็ดหรือ 50 - 55 วัน หลังดอกบาน