DVD : Ardor (2002) รักแสร้ง...แรงเสน่หา
เสียง KoreanThai
บรรยาย Thai
DVD แผ่นแท้ ลดราคาพิเศษ#LIDODVD#LIDOCONNECT#SIAMSQUARE#หนังหายาก#หนังรางวัล#MOVIE#ACADEMYAWARD
มิฮุน(คิม ยุนจิน) ดูเหมือนหญิงสาวที่มีชีวิตครอบครัวที่เป็นสุข เธอมีสามีที่รักกันมาตั้งแต่วัยเรียนและแต่งงานมีลูกกัน แต่แล้ววันหนึ่งก็มีผู้หญิงที่เธอไม่รู้จักมาอ้างตัวว่าเป็นคู่รักของสามีเธอเช่นกัน เหตุการณ์บานปลายจนมิฮุนได้รับบาดเจ็บ
หากมองในแง่หนัง Melodrama ในแบบที่บ้านเราเรียกว่าละครน้ำเน่า Ardor เปิดเรื่องได้เร้าอารมณ์ดีเหลือเกิน เหตุการณ์หลังจากนั้นผ่านไปเธอ สามี และลูกสาว ย้ายไปใช้ชีวิตสงบเปิดร้านหนังสืออยู่ในหมู่บ้านเล็กๆ ดูเหมือนชีวิตจะรื่นรมย์ขึ้น สามีดูรักใคร่เอาอกเอาใจ ทว่าแม้อาการทางกายของมิฮุนจะหายดีแล้วก็ตาม แต่เธอยังมีอาการเซื่องซึมเหม่อลอย ใช้ชีวิตให้หมดไปวันๆ ไม่หายขาด
ราวกับว่ามิฮุนตระหนักดีว่าการใช้ชีวิตเปลี่ยนที่ไม่ได้หมายถึงการเปลี่ยนแปลงที่แท้จริง แล้วคนดูตระหนักได้เช่นเดียวกับเธอ เมื่อมีเหตุการณ์ที่เห็นว่าคนในหมู่บ้านที่มีท่าทีเห็นอกเห็นใจเป็นเพียงการกระทำตามมารยาท ขณะที่สามีเธอเองก็เอือมระอากับพฤติกรรมของเธอ
แล้วชีวิตของเธอก็เปลี่ยนไปเมื่อไปรับการบำบัดจากแพทย์หนุ่ม อินกิว(ลี จองวอน) และเขายื่นข้อเสนอเป็นเกมให้เธอและเขามีชู้ด้วยเงื่อนไขพิเศษหากใครบอกรักอีกฝ่ายก่อนถือว่าแพ้ และเป็นอันจบเกม พูดง่ายๆว่าแพทย์หนุ่มเสนอให้เธอมีเซ็กส์กับเขาโดยปราศจากพันธะผูกพัน มันคือเกมตัณหาดีๆนี่เอง!
ภรรยาที่ตรอมตรมกับชีวิตคู่แล้วอย่างเธอ ย่อมขยาดในเซ็กส์ที่ไร้รัก แต่หนังก็วางเงื่อนไขให้เธอได้พานพบบ้านร้างที่เกิดจากฆาตกรรมกันเพราะการมีชู้ และพานพบกับครอบครัวเพื่อนลูกสาวที่ฝ่ายหญิงโดนสามีกระทำย่ำยีอย่างไร้ความยุติธรรม หากสามีเธอนอกใจได้ ทำไมเธอจะนอกใจเขาไม่ได้บ้าง ว่าแล้วไม่นานนักมิฮุนก็ตัดสินใจเล่นเกมอันผิดศีลธรรมนี้
จะว่าไปแล้ว หากไม่นับสัญลักษณ์ และการแสดงที่ดีเด่นใน Ardor งานชิ้นนี้ก็เข้าข่ายหนังประโลมโลกย์ธรรมดาๆ เรื่องหนึ่ง มีฉากที่เล่นสนุกคนดูด้วยเรื่องความรัก ความใคร่ ในปริมาณที่ล้นจนฟูมฟายอยู่หลายฉาก แต่หากนับว่านี่คือหนังเกาหลี หนังที่สร้างในเอเชีย ซึ่งมีจารีตและกรอบการดำเนินชีวิตของผู้หญิงที่ยังเคร่งครัดอยู่ดีในการตัดสินความถูกผิด Ardor ก็ถือว่าเข้าข่ายเป็นหนังท้าทายศีลธรรมและกรอบนั้นอย่างยิ่ง
เราอาจเห็นหนังแนวนี้ที่เลือกให้ผู้หญิงต่อสู้ มีทางแก้ไขในชีวิต เป็นคนเก่งกาจ ซึ่งอย่างไรเสียก็มักจะจบลงพร้อมกับความรักกับฝ่ายชาย Ardor ไปไกลกว่านั้นเพราะคงไม่ได้เห็นหนังที่ให้ตัวเอกหญิงเลือกที่จะมีชู้ด้วยความสนุกแบบนี้นัก ราวกับเชื่อว่าการหลีกหนีความจริงที่ตรงประเด็น ซ้อนทับกับชีวิตครอบครัวของผู้หญิง
แนวคิดดังว่าคงจะเลอะเทอะเลื่อนเปื้อน หากแต่นี่เป็นผลงานของผู้กำกับหญิงซึ่งแน่นอนว่าการนำเสนอแบบล้นเกินจนเห็นชัดนั้นเป็นความจงใจในการนำเสนอประเด็นท้าทายดังกล่าว
ช่วงท้ายหนังไปไกลยิ่งกว่านั้น โดยการตัดสินใจครั้งสำคัญของมิฮุน กับการหนีตามไปกับอินกิว ประจวบเหมาะกับการพบว่าบ้านของหญิงสาวเพื่อนบ้านกำลังจะย้ายออกไปเพื่อหนีการตามรังควานของสามีพอดี เธอเลือกที่จะใช้ชีวิตใหม่ ราวกับเป็นสัญญาณบอกแก่มิฮุนเช่นกัน ถึงตอนนั้นเธอหวนคิดถึงลูก ที่ในกระเป๋าเงินของเธอยังไม่มีรูปของลูกติดตัวก่อนจะหนีไปใช้ชีวิตใหม่ด้วยซ้ำ
การจบโดยเลือกให้เธอเลือกใช้ชีวิตใหม่นั้น เป็นการกำหนดจากทั้งชะตากรรม และตัวเธอเองปนเปกันจนยากจะบอกว่าด้วยสาเหตุอะไร หนังบอกในตอนท้ายด้วยเสียงบอกเล่าของมิฮุนเองว่าชีวิตเธออาจไม่ดีสักเท่าไหร่ แต่เธอก็มีความสุขกับมัน ถึงตอนนั้นเธอเลือกที่จะถ่ายรูปเดี่ยวของเธอเองในชุดสีแดง สีที่เปิดเผยความรู้สึกในตัวผู้หญิงเช่นเธอได้ดีที่สุด
เสียงเพลง Donna Donna ของ โจน บาเอซ ขึ้นมาคลอปิดท้าย ซึ่งมีนัยยะชัดเจน เพราะเพลงนี้เป็นเพลงที่ร่ำร้องหาเสรีภาพ ว่าด้วยเรื่องของลูกวัวตัวหนึ่งไม่เคยพบอิสระเหมือนนกตั้งแต่เกิดจนถูกฆ่าตาย เป็นวัฏจักรชีวิต แน่นอนว่าเมื่อมันร้องโดยผู้หญิง และชื่อเพลงเอง ย่อมทำให้สื่อความหมายว่ามันคือเพลงบัลลาดเพื่อเรียกร้องเสรีภาพสำหรับผู้หญิงได้เช่นกัน
Ardor อาจจบอย่างมาไกลเกินจริง เพราะโดยแนวทางของมันก็ถือเป็นหนังหลีกหนีความจริงอยู่แล้ว หากดูโดยเรื่องราวแท้จริงสังคมเกาหลีในเรื่อง ความทุกข์ของผู้หญิงที่เหมือนไม่สิ้นสุด ทางออกของมิฮุนย่อมเป็นแค่ทางออกของคนๆเดียว แต่สังคมก็ยังกระทำเช่นเดิมอยู่อย่างเดิมต่อไป หนังเรื่องนี้เองก็ถือได้ว่าเป็นเพลงบัลลาดสำหรับผู้หญิงได้เช่นกัน
โดยคุณภาพและความประณีตมันอาจเทียบไม่ได้เลยกับ The Piano ของเจน แคมเปี้ยน แต่โดยเจตนาแล้วเหมือนกัน
มันคือหนังที่กำกับโดยผู้หญิง เพื่อผู้หญิง ซึ่งเข้าอกเข้าใจความรู้สึกของผู้หญิงด้วยกันอย่างแท้จริง
Written by Yuttipung